เมนู

โฆรสรวรรค ที่ 1


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นธรณี มีพระราชโองการตรัสถามพระนาคเสนต่อไปว่า ภนฺเต
นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ที่พระผู้เป็นเจ้าว่าองค์แห่งลามีเสียงพิลึกอย่าง 1 นั้นเป็น
การใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
ธรรมดาว่าลานั้นมิได้เลือกที่นอน จะเป็นกองแห่งหยากเยื่อก็ดี เป็นถนน 4 แพร่งก็ดี เป็นหัว
ตะแลงแกงก็ดี ที่ประตูก็ดี กองแกลบก็ดี ที่ใด ๆ ที่ไม่ว่า ลานอนได้สิ้น และลานั้นไม่นอน
มากนักและนานนักด้วย ยถา มีครุวนาฉันใด พระโยคาวจรเจ้าก็มิได้เลือกที่นอนเหมือนกัน จะ
เป็นหญ้าลาด ใบไม้ลาดและเพียงตั่งอย่างไรไม่ว่า จมฺมกฺขนฺธํ ปตฺถริตฺวา ลาดลงซึ่งจัมมักขันธ์
แล้วก็จำวัดมิได้เลือก มหาราช ขอถวายพระพร นี่แหละเป็นองค์อัน 1 แห่งลา ยุติด้วยพระ
พุทธฎีกาที่สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสไว้ว่า
กลิงฺครูปมา ภิกฺขเว เอตรหิ มม สาวกา วิหรนฺติ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปธานสฺมึ ดังนี้
มีใจความว่า ดูรานะภิกษุทั้งหลาย อันว่าสาวกแก่งตถาคตนี้ทำกายดุจท่อนไม่ท่อนฟืน
ิมิได้ประมาท เพียรที่จะบรรเทาราคะให้ขาดจากสันดานดังนี้ อนึ่ง พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรก็
ได้กล่าวไว้ว่า
ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ชณฺณุเก นาภิ ภวิสฺสติ
อลํ ผาสุวิหาราย ปหิตตฺสฺส ภิกฺขุโน

ความว่า ธรรมดาพระโยคาวจรภิกษุ จะต้องคู้บัลลังก์นั่งขัดสมาธิมีสะดือจดเข่าอยู่
ไม่ควรจะเห็นแก่ความสบาย ตั้งพากเพียรทำจิตให้เป็นสมาธิ ดังนี้ ขอถวายพระพร
พระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรจึงถามพระนาคเสนว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสน
ผู้ปรีชา ที่พระผู้เป็นเจ้าว่า องค์แห่งไก่ 5 ประการนั้น เป็นดังฤๅเล่า
พระนาคเสนจึงวิสัชนาว่า มหาราช ขอถวายพระพร ธรรมดาไก่ ยังเช้ามืดอยู่ ย่อมไม่
ลงดินกินอาหาร ฉันใด พระโยคาวจรก็เอาเยี่ยงไก่นั้น รุ่งเช้าก็กวาดลานพระเจดีย์ ตั้งไว้ซึ่งน้ำใช้
และน้ำฉันแล้ว อาบน้ำชำระซึ่งกายให้บริสุทธิ์แล้ว บูชาไหว้นบเคารพพระเจดีย์ และเที่ยวไหว้
พระภิกษุที่เป็นผู้เฒ่าแล้วก็กลับเข้าสู่ที่สงัด นี้จัดเป็นองค์แห่งไก่เป็นปฐม
ปุน จ ปรํ ประการหนึ่ง ครั้นรุ่งสว่างแล้ว ไก่ก็ลงดินเที่ยวหากินฉันใด พระโยคาวจร